ฝ่ายแผนและพัฒนาคุณภาพองค์กร และงานมาตรฐานและพัฒนาหลักสูตรกองบริการการศึกษา สร้างความเข้าใจ การวางแผนการพัฒนาหลักสูตรตามแนวทางการจัดการศึกษาแบบ OBE และแบบ AUN-QA 

คำนิยาม (OBE) Outcome-Based Education   ผลลัพธ์การเรียนรู้ หมายความว่า ผลที่เกิดขึ้นแก่ผู้เรียนผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ได้จากการศึกษา ฝึกอบรม หรือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากการฝึกปฏิบัติ หรือกระบวนการเรียนรู้จริงในที่ทำงานระหว่างการศึกษา  (ราชกิจจานุแบกษา เล่ม 139 ตอนที่ 20 ก หน้า 4 31 มีนาคม 2565)  ผู้บรรยายอธิบายความเข้าใจในตัวย่อที่เกี่ยวข้องกับ (OBE)  ทั้งสิ้น 6 ตัวย่อดังนี้

LO     Learning Outcome                      CLO  Course Learning Outcome

PLO   Program Learning Outcome          LLO Lesson Learning  Outcome

YLO   Year Learning Outcome               K-S-A   Knowledge -Skill -Attitude

ซึ่งการปรับปรุงหลักสูตรตามแนวทาง Outcome-Based Education  (OBE) มีแนวทางดังนี้

1.วิเคราะห์ Steakholders’ needs  โดยคำนึงถึง 3 หัวข้อหลัก คือ มาตรฐานสากล  vision Mission ของมหาวิทยาลัย และมาตรฐานคุณวุมิระดับอุดมศึกษา

2. การกำหนด Graduate Attributes(GA)

3.สร้าง PLOs

4.วิเคราะห์ความสอดคล้องของ PLOs กับ Steakholders Need และ Graduate Attributes

5.กำหนด K-A-S ที่สอดคล้องกับ ญศฯPLOs

6.กำหนด CLOs

7.กำหนด LLOs

          ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้ให้แนวทางการพัฒนาหลักสูตรของมหาวิทยาลัย ตามแนวทาง OBE แบ่งเป็น 2 กรณี

          กรณีที่ 1 หลักสูตรปรับปรุงแล้ว

แนวทางที่ (1) ปรับปรุงหลักสูตรใหม่ (ปรับใหญ่)

แนวทางที่ (2)  1.ใช้ PLOs ของหลักสูตร(ถ้ามี) หรือสิ่งที่หลักสูตรเลือกแปลงมาเป็น PLOs (หมวด 5 “มาตรฐานผลการเรียนรู้” หรือหมวด 2 “วัตถุประสงค์หลักสูตร”) และ เพิ่มคำอธิบาย PLOs ในหมวด 5 หรือ หมวด 2

2.ปรับรายวิชา/กระบวนการวิธีการสอน/การวัดประเมินผล ที่สอดคล้องกับ PLOs(ปรับปรุงย่อย)  กระบวนการปกติที่หลักสูตรที่หลักสูตรต้องดำเนินการตาม IQA

3.หลักสูตรดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าจะถึงรอบการปรับปรุงหลักสูตร

          กรณีที่ 2 หลักสูตรที่จะปรับปรุงหรือพัฒนาหลักสูตรใหม่ สรุปได้ 14 ข้อ ดังนี้

1.กำหนดและวิเคราะห์ Steakholders ที่จำเป็นและสำคัญของหลักสูตร

2.กำหนดวิธีการหรือเครื่องมือเพื่อให้ได้วึ่งข้อมูลความต้องการของ Steakholders แต่ละกลุ่ม

3.นำ Steakholder’s needs มากำหนดคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์(GAs) ของแต่ละหลักสูตร

4.นำคุณลักษณะคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์(GAs) ของแต่ละหลักสูตรมากำหนด PLOs ของหลักสูตร

5. PLOs ที่กำหนดจะต้องประกอบด้วย ความคาดหวังการเรียนรู้ ทั้ง 2 ส่วน คือ Generic Outcomes และ Subject Specific Outcomes

6.นำ PLOs แต่ละ PLOs มากำหนดเป็น K-S-A และ นำ K-S-A มาจัดกลุ่ม เพื่อกำหนดเนื้อหาสาระวิชา

7.นำเนื้อหาสาระรายวิชามาจัดเรียง “ความเหมาะสม” ของรายวิชาที่จะสอนเพื่อผู้เรียนบรรลุ PLOs ตามที่ต้องการ การลำดับการเรียนรู้

8.นำ PLOs มากำหนดย่อยเป็น YLOs  CLOs และ LLOs

9.กำหนดกระบวนการเรียนการสอนของหลักสูตร ต้องสอดคล้องกับ “ปรัชญาการศึกษาของมหาวิทยาลัย” และ PLOs /CLOs และ LLOs

10.หลักสูตรกำหนด “วิธีการประเมินผู้เรียนที่หลากหลาย” สอดคล้องกับ Learning Level ที่กำหนดตาม PLOs ของหลักสูตร

11.วิธีการวัดการประเมินผลต้องแสดงให้เห็นความตรง ความเที่ยง และไม่ลำเอียงของเครื่องมือ เช่น แบบประเมินที่วัดใจเชิงความคิดเห็น ควรเป็น Rubrics/ ข้อสอบควรมีการวิเคราะห์ข้อสอบ

12.กิจกรรมการเรียนการสอนควรเป็นแบบ Active Learning ที่หลากหลาย ส่งเสริมแนวคิดการเป็นผู้ประกอบการและการคิดเชิงนวัตกรรม

13.หลักสูตร ต้องมีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องของการวัดและประเมินผล การจัดการข้อร้องเรียน และสื่อสารไปยังกลุ่ม Stakeholders ที่สำคัญ

14.เสนอการปรับปรุงหลักสูตร/หลักสูตรใหม่ต่อฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัยฯ(คณะกรรมการประจำคณะ คณะกรรมการบริหารวิชาการ คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองฯ สภามหาวิทยาลัยฯ สป.อว.(CHECO)

นอกจากนี้ แสดงการเปรียบเทียบ มคอ.2 กับProgram Specification ให้เห็นความสอดคล้อง การรวมกันระหว่างหมวดที่ 2 ข้อมูลเฉพาะของหลักสูตร  กับหมวดที่ 4 ผลลัพธ์การเรียนรู้ กลยุท์การสอนและประเมินผล ในมคอ.2 รวมเป็นหมวดที่ 2 ปรัชญา วัตถุประสงค์และผลลัพธ์การเรียนรู้ใน Program Specification   และหมวดที่ 6 การพัฒนาคณาจารย์ และหมวดที่ 8 การประเมินและปรับปรุงการดำเนินการของหลักสูตร รวมเป็นหมวดที่ 9 ระบบและกลไกในการพัฒนาหลักสูตร

ฝ่ายแผนและพัฒนาคุณภาพองค์กร และงานมาตรฐานและพัฒนาหลักสูตรกองบริการการศึกษา แจ้งตารางการทำงานของมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษา ปี 2566 เวลาระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ถึงเดือนตุลาคม 2566 หัวข้อการให้ความรู้การทำงานประกันคุณภาพการศึกษา การฝึกจัดอบรมให้ความรู้ workshop  การแต่งตั้งคณะกรรมการประเมิน  อบรมฝึกทักษะการเขียนรายงาน SAR กำหนดส่งรายงาน SAR

เพื่อให้การดำเนินงานด้านการประกันคุรภาพการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยบรรลุเป้าหมาย  ฝ่ายแผนและพัฒนาคุณภาพองค์กร และงานมาตรฐานและพัฒนาหลักสูตรกองบริการการศึกษา สร้างความเข้าใจและให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการปรับปรุงหลักสูตรตามแนวทางการพัฒนาหลักสูตรตามแนวทางการจัดการศึกษาแบบ OBE  เบื้องต้น และอธิบายให้เห็นภาพรวมกำหนดการการทำงานประกันคุณภาพการศึกษา ตลอดปี 2566

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประชุมชี้แจงหารือวางแผนดำเนินงานพัฒนาหลักสูตรตามแนวทางการจัดการศึกษาแบบ OBE และ AUN QA  วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2566

ณ ห้องประชุม SEC 201 ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

 

ความรู้ที่ได้จากการประชุม ดังนี้

1.      นำความรู้ที่ได้รับเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรของมหาวิทยาลัยตามแนวทาง Outcome-

Based Education : OBE และกรณีหลักสูตรปรับปรุงแล้ว และแนวทางการพัฒนาหลักสูตรของมหาวิทยาลัยตามแนวทาง Outcome-Based Education : OBE กรณีหลักสูตรที่จะปรับปรุงหรือพัฒนาหลักสูตรใหม่ ทบทวน PLOs ของหลักสูตร (ถ้ามี) เช่น มคอ. 2 หมวด 5 มาตราฐานผลการเรียนรู้  หรือ หมวด 2 วัตถุประสงค์ของหลักสูตร หรือ TQF  สามารถตอบข้อคำถามการจัดทำหลักสูตรที่เน้น OBE ตามเกณฑ์     AUN QA

2.      นำรายละเอียดข้อมูลหลักสูตร มคอ. 2 เดิม เทียบกับ Program Specification หมวดที่ 2

ข้อมูลเฉพาะของหลักสูตร  และหมวดที่ 4  ผลการเรียนรู้ กลยุทธ์การสอนและประเมินผล เทียบกับ หมวดที่ 2 ปรัชญา วัตถุประสงค์ และผลลัพธ์การเรียนรู้  หมวดที่ 3 ระบบการจัดการศึกษา การดำเนินการและโครงสร้างของหลักสูตร เทียบกับ หมวดที่ 3 โครงสร้างหลักสูตรและรายวิชา และหมวดที่ 4 การจัดกระบวนการเรียนรู้  หมวดที่ 5 หลักเกณฑ์ในการประเมินผลนักศึกษา เทียบกับหมวดที่ 7 การประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การสำเร็จการศึกษาและการทวนสอบ   หมวดที่ 6 การพัฒนาคณาจารย์ และหมวดที่ 8  การประเมินและปรับปรุงการดำเนินการของหลักสูตร   เทียบกับ หมวดที่ 9 ระบบกลไกในการพัฒนาหลักสูตร  หมวดที่ 7 การประกันคุณภาพหลักสูตร  เทียบกับ หมวดที่  8  ประกันคุณภาพหลักสูตร

3.      งานพัฒนาคุณภาพองค์กร กองแผนงาน สนับสนุนหลักสูตรรองรับการประเมินรวบรวมข้อมูล

กฎ ระเบียบ นโยบานที่เกี่ยวข้อง (ตาม Criterion ที่ 3-7)  รวบรวมกลไกระบบสนับสนุนที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานส่วนกลาง (สนับสนุนตามหลักสูตร ตาม Criterion ที่ 5-7)  ระบบสารสนเทศกลาง การประเมินความพึงพอใจการบริการและคุณภาพประสิทธิภาพของระบบสารสนเทศ รวบรวมข้อมูลย้อนหลังภาระมีงานทำ  ความพึงพอใจของนายจ้าง  ความพึงพอใจของบัณพิตต่อหลักสูตร

4.       แผนการดำเนินการรายละเอียดกำหนดการการอบรมให้ความรู้ วิธีการเขียนรายงานประเมิน

ตนเอง  กำหนดส่ง SAR  และกำหนดหลักสูตรเพื่อรับการตรวจประเมินตามเกณฑ์ AUA QA ประจำปี 2566

 

 

 

 

 

 

 

 

การฝึกอบรมการออกแบบหลักสูตรตามแนวทางการจัดการการศึกษาที่มุ่งผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้

เพื่อการประเมินเกณฑ์ AUN-QA ระยะที่ 2

 

          AUN-QA เป็นระบบการรับรองคุณภาพและมาตรฐานระดับหลักสูตร เพื่อมุ่งเน้นความเป็นเลิศในระดับสากล โดยวัตถุประสงค์หลักของ AUN-QA นั้น ได้แก่

          1. เพื่อการพัฒนาหลักสูตรให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในกลุ่มประเทศอาเซียน

          2. เพื่อเป็นมาตรฐานในการแลกเปลี่ยนผู้เรียนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน

          3. เพื่อมุ่งสู่การเพิ่มคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียน อาจารย์ และบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา

          4.เพื่อสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานด้านคุณภาพการศึกษารในเขตภูมิภาคอื่นเพื่อให้กรอบมาตรฐานคุณภาพระดับอุดมศึกษามีความสอดคล้องกัน

          5.เพื่อยกระดับความเชี่ยวชาญในด้านประกันคุณภาพของกลุ่มประเทศอาเซียน

หลักการและเหตุผลของ AUN-QA นั้น มุ่งเน้นและให้ความสำคัญ 8 ประการได้แก่

1.     คุณภาพบัณฑิต

2.     ความคาดหวังของตลาดแรงงาน

3.     การสร้างความเป็นสากลให้กับสายอาชีพ และการมุ่งสู่งความเป็นโลกาภิวัติ

4.     การปกป้องลูกค้า หรือผู้ใช้บัณฑิต

5.     การขยายขอบเขตการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำสู่การอุดมศึกษาในระดับมวลชน

6.     การตอบสนองต่อความต้องการของสังคม

7.     การให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับคุณภาพของการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

8.     การสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนผู้เรียนและความร่วมมือระหว่างประเทศ

 

          AUN-QA มุ่งเน้นให้หลักสูตรมีความสอดคล้องระหว่างการออกแบบเป้าหมายการเรียนรู้ของผู้เรียน การออกแบบกลยุทธ์การเรียนการสอน และการออกแบบการประเมินผลการเรียนรู้ หรือ การดำเนินการอย่างเป็นระบบ หากหลักสูตรมีการพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ และวางแผนการดำเนินการ ตลอดจนบริหารหลักสูตรอย่างเป็นระบบแล้ว หลักสูตรย่อมสามารถตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รอบด้าน ไม่เพียงแต่ผู้เรียนและผู้ใช้บัณฑิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้สอน สถาบัน รวมถึงหน่วยงานภายนอกต่าง ๆ อีกด้วย

          การดำเนินการอย่างเป็นระบบนี้เอง ยังก่อให้เกิดประโยชน์กับคณะ ที่ดำเนินการหลักสูตรนั้น ๆ ด้วย กล่าวคือ คณะ ดำเนินการพัฒนาคุณภาพตามแนวทาง EdPEx หรือการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศแล้ว การดำเนินการบริหารหลักสูตรตามแนวทาง AUN-QA นั้นจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนากระบวนการทำงานในด้านการจัดการเรียนการสอน ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของคณะและมหาวิทยาลัยอีกด้วย

       Program Learning Outcomes (PLOs) สิ่งที่หลักสูตร ต้องการ/คาดหวัง ให้บัณฑิตเป็น เมื่อเรียน ครบตามโปรแกรม ของหลักสูตร

       ซึ่ง PLO (Program Learning Outcome) ผู้เรียนสามารถทาอะไรได้หลังจากเรียนสาเร็จหลักสูตร ต้องมี knowledge, skills, attitude อะไรบ้าง ซึ่ง PLO ต้องเชื่อมโยงกับความต้องการของ Stakeholders และ vision, mission ของมหาวิทยาลัย สามารถตอบสนองนโยบายของประเทศและมหาวิทยาลัยได้

การแปลงเอกสาร Word ให้กลายเป็นไฟล์ PDF ได้ในไม่กี่วินาที การแปลงไฟล์เป็น PDF ทำให้ไฟล์อยู่ในรูปแบบที่อเนกประสงค์และสามารถแชร์ได้ ทำให้เราสามารถเข้าถึงไฟล์ได้อย่างง่ายดายและแสดงไฟล์ได้อย่างถูกต้อง โดยยังคงรูปแบบและตัวเลือกการออกแบบในเอกสารต้นฉบับ ไม่ว่าจะเป็นบันทึกข้อความ โดยสามารถแชร์ไฟล์ที่แปลงมาโดยมั่นใจได้ว่า PDF นั้นจะแสดงแบบรูปอักษรและข้อมูลการจัดรูปแบบเหมือนต้นฉบับ

 

การประยุกต์ใช้ PDF ในสำนักงาน

          1. ระบบราชการ นำไฟล์ PDF ไปใช้ในงานเพื่อใช้เป็นเอกสารอเล็กทรอนิกส์ ทดแทนเอกสารรูปแบบกระดาษ

          2. ใช้ในการจัดเก็บและค้นหางานเอกสารจำนวนมาก

          3. ใช้แปลงไฟล์ข้อมูลอักษรภาพ เป็นตัวอักษรธรรมดา(OCR)

 

ประโยชน์ที่ได้รับจากไฟล์ PDF

          1. ง่ายต่อการสร้างไฟล์ เพียง 1 ปุ่ม เพื่อสร้างไฟล์ PDF จากโปรแกรม Adobe Acrobat

          2. ช่วยในการรวมไฟล์ต่างชนิดกัน ไว้ในรูปแบบ PDF เพียงไฟล์เดียว

          3. ช่วยแก้ปัญหาเรื่องฟอรต์สำหรับงานพิมพ์ เพราะ PDF มีระบบฝังฟอนต์ไว้ในไฟล์

 วิธีการใช้งาน

 1. คลิกเลือก Adobe Acrobat Sign  Create Form

            

         

2. คลิกเลือก ไฟล์ที่ต้องการ ≫ Select file

 

 

3. คลิก Start เพื่อทำการแปลงไฟล์ข้อมูล

 

4. เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้วให้กดบันทึกไฟล์ข้อมูล

 

          จะเห็นได้ว่า การใช้งานโปรแกรม Adobe Acrobat นั้น จะข้อจำกัดเมื่อนำมาใช้งานจริง คือ หากนำมาใช้กับการทำบันทึกข้อความที่ต้องระบุเหตุผลความจำเป็น หรือชื่อกิจกรรมโครงการที่ชื่อค่อนข้างยาว/สั้นจนเกินไป  จะทำให้การจัดวางข้อความจะไม่พอดีกับหน้ากระดาษได้

การใช้งานโปรแกรมcanva

โปรแกรมที่มีชื่อว่า Canva เป็นเครื่องมือที่หลายๆคนใช้ วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการใช้งานตัวโปรแกรม canva สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษา เพราะเป็นเครื่องมือการออกแบบที่ดีที่สุดสำหรับการทำ Social Media ต่างๆ และสามารถใช้งานได้ทั้งใน computer และ Smartphone โดยโปรแกรม Canva จะมีทั้ง แบบฟรี และ ก็แบบเสียเงิน โดยวันนี้จะมาแนะนำเกี่ยวกับ การใช้งานโปรแกรม Canva ว่า มันใช้งานยังไง

1 สมัครสมาชิก Canva

Canva ต้องสมัคสมาชิกก่อน สามารถสมัครผ่าน Facebook  สมัคผ่าน google หรือ จะสมัครด้วย E-mail ส่วนตัวของเราได้

 

 2. เลือกการออกแบบ Canva ที่คุณอยากได้

หลังจากได้มามีการสมัคสมาชิกและ ได้ กด login เข้ามาแล้ว โดยคุณสามารถกดคลิกปุ่มทางด้านขวาบน ชื่อ Create a Design เพื่อทำการเลือกรูปแบบของ Canva ที่เราต้องการได้เลย รูปแบบก็มีให้เลือกเยอะ

          หรือถ้าคุณยังเลือกรูปแบบที่จะใช้ไม่ได้ ก็ให้เลื่อนลงไปทางด้านล่าง มันจะขึ้นตัวอย่าง ต่างๆของคนที่เขาเคยทำไว้ หรือ รูปแบบสวยๆที่ ทางCanva ออกแบบเอาไว้ เช่น การออกแบบโพสอินสตาแกรม , การออกแบบเรซูเม่ , การสร้างโลโก้ หรือ การสร้างแผ่นพับต่างๆ 

หลายคนต่างรู้จัก Canva เว็บออกแบบที่ใช้งานง่าย เหมาะกับงานเร่งด่วน แถมมีฟังก์ชันการใช้งานง่าย และหลากหลาย ถ้าเพื่อนๆใช้งานเป็นแล้วจะติดใจ หากได้ลองเล่นให้ลึกขึ้นจะรู้ว่า Canva ก็มีสเน่ห์ไม่แพ้โปรแกรมออกแบบอื่นๆ เลย

จุดเด่นของ Canva ที่ต่างจากโปรแกรมทั่วๆ ไป คือ Canva เป็นพื้นที่ Creative cloud สามารถสร้างงานครีเอทีฟ ออกแบบได้บนเว็บออนไลน์ ทำให้ไม่ต้องเปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์หนักๆ อีกต่อไป อีกทั้งยังมาพร้อมกับเครื่องมือครบครันที่ใช้งานง่าย และเครื่องมือส่วนใหญ่ยังอยู่ในแผนการใช้งานฟรีอีกด้วย ซึ่งสามารถเลือกดูแผนการใช้งานที่เหมาะสมกับงานออกแบบ ได้เลย และ Canva tips เล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ Canva ได้อย่างมือโปรมาด้วย ไปดูกันเลย

 

1.      ทำพื้นหลังเบลอ

 

ภาพโดดเด่นแย่งซีนจนใส่ตัวหนังสือไม่ได้ และมักจะจมหายไปกับภาพ อาจจะเกิดจากภาพสีชัดและมีรายละเอียดเยอะเกินไป ลองปรับ Transparency บนแถบเครื่องมือมุมขวาบนให้ลดลงเหลือ 90% ก่อนจะเลือก Edit image และ adjust ความ Blur เพื่อทำภาพให้เบลอจนกว่ารายละเอียดที่ ต้องการจะโดดเด่นขึ้นมา เพียงเท่านี้การใส่ตัวหนังสือลงบนภาพก็จะชัดขึ้น และไม่จมหายไปกับภาพอีกต่อไป

 

2.      การดึงภาพให้โดดเด่น

การเพิ่มมิติให้กับภาพ จริงๆ ทำได้หลายรูปแบบ สำหรับการซ้อนภาพยังให้ให้รายละเอียดเด่นขึ้นกัน ซึ่งมี 2 เทคนิค คือ การเพิ่ม Shadow สีขาวเพื่อสร้างขอบให้ภาพเด่นขึ้น โดยไปที่ Edit image จากนั้นเลือก Shadow ปรับค่า เลือกสีของ Shadow ได้ตามความต้องการ ภาพที่ได้จะดูมีเลเยอร์สมจริงและดูมีมิติขึ้นมาเลย

หรืออีกวิธีคือการซ้อนเลเยอร์ โดยใช้เพียง 2 เครื่องมือ คือ Shape และ Frame ซึ่งขั้นแรกเราต้องคิดก่อนว่าอยากจะให้ภาพเราเป็นรูปทรงไหน เช่น อยากให้เป็นรูปทรงวงกลม ก็สร้างวงกลมจาก Shape ก่อน แล้วนำรูปภาพที่ต้องการมาเลือกกรอบภาพ หรือFrame และนำสองเลเยอร์นี้ซ้อนกัน โดย Shape ของเลเยอร์หลังจะทำหน้าที่เป็นกรอบให้กับภาพ ทำให้ภาพโดดเด่นขึ้น

 

3.      สร้างเอฟเฟ็กต์ภาพ

อยากสร้างงานเท่ๆ ไม่ยาก! เพียงแค่เสริม Canva Tips เพิ่มเข้าไปอีกเล็กน้อย เช่น เพิ่มการกระจายตัวของสีออกมาจากตัวอักษรด้วยการแปะทับ Elements หยดสีลงในภาพนั้นๆ แล้วปรับสีให้กลมกลืน ก็จะได้เอฟเฟ็กต์ในงานเพิ่มแล้ว นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังสามารถเลือกรูปร่างแบบอื่นๆ มาแปะทับเสริมลูกเล่นให้กับตัวหนังสือ หรือใช้ตกแต่งภาพได้อีก

อีกทั้ง Canva ยังมีการสร้าง Effect ให้กับภาพโดยเฉพาะด้วยอย่างฟิลเตอร์ การเบลอภาพแบบทั้งภาพ หรือไล่ระดับ จนถึงการเน้นแสงไฟอย่างการสร้างกรอบภาพให้มืดลง ตัวอย่างสไตล์ฟิลเตอร์ที่มี เช่น ขาวดำ ฟิล์ม นอร์ดิก

4. สร้างกลุ่ม

กดเลือก แล้วลากทีละอันมันแสนจะเสียเวลา การสร้างกลุ่มให้กับวัตถุที่เราเลือก ครอบองค์ประกอบแล้วกด Command + G รวมกลุ่มสิ่งของ เมื่อคลิกแล้วเป็นการเลือกวัตถุทั้งหมดที่เราตั้งกลุ่มไว้ได้เลย สามารถสร้างได้หลายกลุ่มตามที่เราต้องการ ถ้าต้องการยกเลิกการจัดกลุ่ม กด Ctrl + Shift + G ได้เลย

5. เลือกองค์ประกอบ

เคยไหม มีวัตถุหลายๆ อย่าง จะคลิกอันนี้ก็ไปโดนอีกอันแทน เมื่อเลเยอร์ซ้อนกัน การเลือกเลเยอร์ก็ยากขึ้น Canva Tips ให้เลือกล็อกองค์ประกอบบางอย่างเพื่อให้เลือกได้ง่ายขึ้นแทน การล็อกองค์ประกอบทำให้วัตถุนั้นๆ ไม่สามารถเคลื่อนไหว หรือคลิกได้ ทำได้โดยกดปุ่ม Shift บนแป้นพิมพ์ค้างไว้ จากนั้นให้คลิกองค์ประกอบที่ต้องการล็อกไม่ให้เคลื่อนไหว สามารถกดเลือกได้หลายๆ องค์ประกอบ จากนั้นกดปุ่มไอคอนแม่กุญแจเพื่อล็อกองค์ประกอบภาพที่เพื่อนๆ เลือกได้เลย

6. คีย์บอร์ดลัด

 

อยากจะโปร แต่ยังนั่งคลิกอยู่เลย เปลี่ยนจากคลิกมากเป็นกดแป้นพิมพ์ลัดง่ายๆ กันดีกว่า จำเพียงส่วนที่ได้ใช้บ่อยๆ ก็โชว์เป็นโปร Canva ได้เลย คีย์ลัดง่ายๆ ของ Canva Tips เช่น 

การกระทำกับองค์ประกอบที่เลือก
Ctrl + C = คัดลอก
Ctrl + V = วาง
Ctrl + Y = ทำซ้ำ
Ctrl + Roll scroll +/- = ซูมเข้าหรือออก

สร้างวัตถุ
C = สร้างวงกลม
L = สร้างเส้นแนวนอน
R = สร้างสี่เหลี่ยม
T = สร้างข้อความ

ตัวอักษร
Ctrl + B / I / U = เปลี่ยนรูปแบบตัวอักษรเป็นตัวหนา ตัวเอียง หรือขีดเส้นใต้ ตามลำดับ

การจัดตำแหน่งวัตถุ
Ctrl + ] = ย้ายตำแหน่งมาหน้าสุด
Ctrl + [ = ย้ายตำแหน่งไปหลังสุด
Ctrl + Alt + ] = ย้ายวัตถุไปข้างหน้า
Ctrl + Alt + [ = ย้ายวัตถุไปด้านหลัง
คีย์ลัดนี้ได้ใช้แน่นอน อย่าลืมเอา Canva Tips ไปใช้จริงกันด้วยล่ะ เพื่อนๆ จะได้ชินมือ

จากที่กล่าวมาเราก็จะรู้แล้วว่า Canva มีประโยชน์อย่างมาก สามารถเอาไปใช้ได้หลากหลาย และเป็น Platform ที่ออกแบบได้ง่ายๆสำหรับทำ Social Media ต่างๆ และคนส่วนใหญ่ที่จะใช้ Canva สร้างเรซูเม่ มากที่สุด ทั้งนี้ก็ขอ ฝาก บทความแนะทำวิธีใช้งาน โปรแกรม Canva ไว้ด้วย เพราะ ใช้งานง่ายไม่ซ้ำซ้อน คนนิยมใช้กัน มาก

 

 

 

 

 

 

การใช้งาน Program CanVa

          วิธีการใช้งานโปรแกรม canva สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเพราะเป็นเครื่องมือการออกแบบที่ดีที่สุดสำหรับการนำเสนอที่มีหลากหลายรูปแบบ เช่น Presentation, Poster, Card, Resume, Certificate, Infographic เป็นต้น ซึ่ง Canva นั้น จะมีขนาดมาตรฐานให้ เลือกหรือผู้ใช้สามารถกำหนดขนาดเองได้ Canva ใช้งานง่าย และสามารถใช้งานได้ทั้งใน computer และ Smartphone โดยโปรแกรม Canva จะมีทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงิน 

1. การสมัครสมาชิก Canva   สำหรับคนที่ไม่เคยใช้งาน Canva ต้องเข้าไปสมัครสมาชิกก่อน โดยสามารถสมัครผ่าน Facebook  สมัคผ่าน google หรือ จะสมัคด้วย E-mail ส่วนตัวก็ได้

2. เลือกการออกแบบ Canva ที่อยากได้  เมื่อสมัครสมาชิกและกด login แล้ว  ผู้ใช้งานสามารถกดคลิดปุ่มทางด้านขวาบน ชื่อ Create a Design เพื่อทำการเลือกรูปแบบของ Canva ที่เราต้องการได้เลย รูปแบบก็มีให้เลือกเยอะ หรือถ้ายังเลือกรูปแบบที่จะใช้ไม่ได้ ก็ให้เลื่อนลงไปทางด้านล่าง มันจะขึ้นตัวอย่างต่างๆหรือรูปแบบสวยๆที่ ทางCanva ออกแบบไว้ 

3. เลือก Template ที่เหมาะกับการใช้งาน

          เราสามารถใช้ Template ได้ฟรี  ทั้งนี้Template  บางตัวต้องจ่ายเงินในการที่จะเลือกแบบ โดยแบบเสียเงินมีราคาที่ไม่แพงมาก แต่ถ้าเราไม่อยากจะเสียเงิน ก็ให้เลือกเป็นแบบฟรีตั้งแต่ตอนแรกเลย โดยแบบฟรีก็มีให้เลือกเยอะ

4. การออกแบบ: ลบ เพิ่ม และเปลี่ยนสี

          ภาพ (Photo) คือ ภาพที่ canva มีให้โดย มีทั้งแบบฟรี และ แบบเสียเงิน หรือเราจะใช้ภาพจากที่เราเตรียมมาจากที่อื่นก็ได้  Canva ก็จะมีฟิเจอร์ให้เราตกแต่งเพิ่มเติมได้

          Element คือ องค์ประกอบในการออกแบบอื่นที่ Canva ให้มาเพื่อช่วยให้การออกแบบเรามีสีสันมากขึ้น เช่น รูปร่าง หรือ ไอคอน ต่างๆ

          Font  คือ Font ที่เราพิมพ์ลงไปใน งานของเราบน Canva โดยมี Font ภาษาอังกฤษ  สวยๆ ให้เราเลือกใช้เยอะมาก แต่ Font ภาษาไทย ยังมีให้เราเลือกใช้ ไม่เยอะเท่าไร โดยเราก็สามารถใช้ฟ้อนที่เราไปหามาจากที่อื่นก็ได้ โดย เราต้องเป็นสมาชิกก่อน ถึงจะ เอา Font  จากที่อื่นมาใช้กับ Canva ได้

          สี  คือ Element ที่ Canva ให้เรามา และ Font ต่างๆที่เราใช้สามารถเปลี่ยนสีได้ ในส่วนนี้ Canva จะมีการแนะนำสีที่เหมาะหรือคล้ายกับ Element อื่นๆที่เราใช้  

 

5. การบันทึก และ การเลือกชนิดของไฟล์ 

          หลังจากที่เราได้ออกแบบการทำงานของเราในส่วนต่างๆ บน Canva ไปแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย คือการบันทึกและเลือกชนิดของไฟล์ เพื่อนำไปใช้ที่อื่นได้

                   1. กดปุ่มแชร์  ด้านขวามือบน

                   2. ดาวน์โหลด

                   3. เลือกชนิดไฟล์ เป็นแบบ JPG หรือ GIF หรือ PDF หรือ VidioMP4

สำหรับฟีเจอร์การบันทึกแบบภาพโปร่งใส (Transparent) ต้องเสียเงิน หรือ เป็นสมาชิกก่อนถึงจะบันทึกได้

         จากที่กล่าวมาจะเห็นว่า Canva มีประโยชน์อย่างมาก สามารถเอาไปใช้ได้หลากหลาย และเป็น Platform ที่ออกแบบได้ง่ายๆ และคนส่วนใหญ่ที่จะใช้ Canva เพราะใช้งานง่ายไม่ซ้ำซ้อน คนนิยมใช้กันมากอีกด้วย

 

 การสร้าง UBU QR-code เพื่อนำไปใช้ในแอปพลิเคชัน Canva

          จากการได้ใช้แอปพลิเคชัน Canva ผู้เขียนได้เลือกรูปแบบในการจัดทำประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อกับงานบุคคลได้หลากหลาย เช่น Presentation, Poster, Card, Resume, Certificate, Infographic เป็นต้น ซึ่ง Canva นั้นจะมี Template หรือรูปแบบสำเร็จ รวมถึงขนาดมาตรฐานให้เลือกหรือ ผู้ใช้สามารถกำหนดขนาดหรือออกแบบสื่อเองจากหน้ากระดาษที่วางเปล่าเองได้ ซึ่งปกติผู้เขียนจะแจ้งเวียนผ่านอีเมลที่มีแต่ตัวหนังสือ แต่หลังจากได้มาใช้ แอปพลิเคชัน Canva ทำให้การประชาสัมพันธ์มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยจะขอยกตัวอย่าง การประชาสัมพันธ์ในการตอบแบบสอบถาม ซึ่งการออกแบบประชาสัมพันธ์ ต้องมี QR-code ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เป็นช่องทางที่สะดวกสำหรับผู้ใช้บริการในการเข้าถึงข้อมูลแบบสอบถาม โดยไม่ต้องเข้าเว็บไซต์ที่ยุ่งยาก ผู้เขียนจะขอนำเสนอ การสร้าง QR-code ในแอปพลิเคชัน Canva และ การสร้าง UBU QR-code ในระบบ https://portal.ubu.ac.th เพื่อนำไปใช้ในแอปพลิเคชัน Canva โดยทั้ง 2 วิธีการไม่ยุ่งยาก

 

1.      การสร้าง QR-code ในแอปพลิเคชัน Canva

วิธีการ  1. คลิก รหัส QR-code  2. ใส่ URL

 

 

2.      การสร้าง UBU QR-code

วิธีการ       1. เข้าระบบ https://portal.ubu.ac.th คลิก 9.2 UBUQR-code

               2. คลิกเพิ่มข้อมูล  3.ระบุรายละเอียด 4.วางลิงค์ที่ต้องการสร้าง

 

   ที่มา :ฝ่ายพัฒนาซอฟต์แวร์ สำนักคอมพิวเตอร์และเครือข่าย 045-353110 หรือ FB: สำนักคอมพิวเตอร์และเครือข่าย

 

 

          ผู้เขียนมองว่า การสร้าง QR-code ทั้ง 2 วิธีการ มีประโยชน์และมีวิธีการสร้างอย่างง่าย สำหรับผู้เขียนชอบใช้ UBU QR-code เพราะการสร้าง UBU QR-code ระบบจะสร้าง short URL และ QR-code ที่มีสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยอยู่ตรงกลาง ซึ่งดูสวยงามและเป็นทางการเหมาะสำหรับการประชาสัมพันธ์ที่เป็นหน่วยงานของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อีกทั้งระบบจะสามารถบันทึกจำนวนผู้เข้าตอบแบบสอบถามที่สแกนผ่าน UBU QR-code และยังมีฐานข้อมูลเดิมที่เคยสร้าง QR-code ไว้ด้วย               

 

 

 




 

 

ตามที่ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมการประชุมวิชาการเครือข่ายพัฒนาระบบงานบริหารและธุรการ

ครั้งที่ ๑๐ เรื่องบทบาทและทักษะใหม่ของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

ระหว่างวันที่ ๘ - ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ จ.เชียงใหม่ ความละเอียดทราบแล้วนั้น                                      ในการนี้ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอรายงานผลคาดว่าจะได้รับในการประชุมดังกล่าว คือการเปลี่ยนแปลง

ของเทคโนโลยีโดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทำให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงผกผันเชิงดิจิทัล (Digital

Disruption) จนทำให้อุตสาหกรรมหลายอย่างต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เกิดผลกระทบในทุกภาคส่วน

ร่วมทั้งสถาบันการศึกษาที่ต้องมีการปรับตัวทั้งบุคลากรและนักศึกษาเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก

โดยการปรับตัวนั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากสื่อกระดาษ และการรับรู้ข่าวสารแบบเดิมเช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ เปลี่ยนมาเป็นสื่อใหม่แบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น การแทนข้อมูลข่าวสารในรูปแบบที่แสดงผล

ด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้การสื่อสาร ส่งข้อมูลดิจิทัล ได้เร็วและสะดวก พัฒนาการทางนิเวศดิจิทัลด้านสื่อจึงมีผล

ต่อวิถีชีวิต การใช้สื่อดิจิทัลก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมทั้งทางด้านบวกและลบ ทำให้เกิดสังคมใหม่ที่

เรียกว่า สังคมไซเบอร์ สังคมแห่งโลกเสมือนจริง หรือโลกไซเบอร์ เมื่อมีการรวมกันของผู้คนผ่านโลกออนไลน์ ที่อยู่ในไซเบอร์ ทำให้เกิดเครือข่ายสังคม (Social network) ตัวอย่างของสื่อสังคมในยุคปัจจุบัน เช่น เฟสบุก ทวีตเตอร์ ไลน์ อินสตราแกรม ยูทูบ ติ๊กต๊อก ฯลฯ ที่เชื่อมโยงกลุ่มคน เป็นเครือข่ายสังคม สื่อสังคมได้รับการ

พัฒนามาในรูปแบบแพลตฟอร์ม ผู้พัฒนาเข้าใจความรู้สึก นึกคิด ความนิยมของผู้คน ใช้การตอบสนองต่อ

พฤติกรรมของผู้ใช้ ให้ตรงใจ สื่อใหม่จะมีบทบาทสำคัญในยุคชีวิตวิถีใหม่ เพราะเป็นการกระจายข่าวได้อย่าง

รวดเร็ว มีการส่งต่อ หรือส่งข่าวได้ด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจึงจำ

เป็นต้องได้รับการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนในประเด็นที่เกี่ยวข้อง

 

แบบฟอร์มต่าง ๆ ของคณะส่วนใหญ่จะใช้เป็นโปรแกรม  Microsoft word  และ  Adobe Acrobat  ซึ่งไฟล์ที่สามารถกรอกข้อมูลได้ทันที คือ ไฟล์ Word  แต่ข้อจำกัดของการนำไฟล์  Word  ไปใช้  เช่น การเปิดไฟล์ไม่ได้  หรือหากเปิดได้รูปแบบหรือฟอนท์อาจจะไม่เหมือนกับต้นฉบับ  ซึ่งหากเราเซฟเป็นไฟล์  pdf  ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้  และยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกดังนี้

ไฟล์  pdf  สามารถเปิดใช้งานได้หลายระบบการทำงาน  ไม่ว่าจะเป็น  Window  หรือ  Mac  หรือบน

       มือถือก็สามารถเปิดไฟล์และเซฟไฟล์งานแบบ pdf  ได้หมด

ไฟล์ pdf ใช้ส่งงานผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้รวดเร็ว

ไฟล์ pdf สามารถคงการมองเห็น คุณภาพการพิมพ์หรือการจัดหน้าได้เหมือนต้นฉบับ

สามารถส่งรูปภาพที่มีความคมชัดผ่านไฟล์ pdf ได้อย่างรวดเร็ว

สามารถทำการเซฟนามสกุล .pdf ได้จากหลายโปรแกรม

สามารถเก็บไฟล์งานที่มีคุณภาพสูงได้อย่างดี

ดังนั้น  การสร้างแบบฟอร์ม PDF ด้วยโปรแกรม Adobe Acrobat ให้สามารถกรอกข้อมูลได้  จึงเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการนำไปใช้  ซึ่งการสร้างแบบฟอร์มมีวิธีดำเนินการดังนี้

1. สร้างแบบฟอร์มในโปรแกรม Microsoft Word ตามรูปแบบที่ต้องการ

2. บันทึกแบบฟอร์มจาก File Microsoft word ให้เป็น File pdf

3. เปิดโปรแกรม Adobe Acrobat  เลือก File pdf  ที่บันทึกไว้ขึ้นมา เลือกเมนู File เลือก Create เลือก Create Form เพื่อสร้างแบบฟอร์ม

4. โปรแกรมจะขึ้นกล่อง Create Form เลือก From Existing Document เลือก next

5. โปรแกรมจะขึ้นกล่อง Existing From เลือก Current Document เลือก Continue

6. โปรแกรมจะสร้าง Text Field อัตโนมัติมาให้บางส่วน ซึ่งสามารถปรับแต่งหรือลบรูปแบบได้ตามต้องการ

ในกรณีที่โปรแกรมไม่ได้สร้าง Text Field  มาให้ สามารถเพิ่ม Text Field  ได้ โดยไปที่เมนูคำสั่งที่มุมด้านขวาของโปรแกรม 

7. การสร้าง Text Field ไปที่เมนูคำสั่งเลือก Add New Field เลือก Text Field คลิกขวาในกล่อง Text Field

8. เมื่อสร้างฟอร์มเสร็จแล้วให้บันทึกแบบฟอร์ม จะได้แบบฟอร์มในรูปแบบ File pdf

โปรแกรม UBU Templates เป็นโปรแกรมรูปแบบของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีที่ผู้เกี่ยวข้องสามารถเข้าไปจัดการเนื้อหาหรือส่วนงานของตนเองในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องได้ งานบัณฑิตศึกษาคณะศิลปศาสตร์รับผิดชอบดูแลเว็บไซต์ระดับบัณฑิตศึกษาของคณะศิลปศาสตร์ โดยผู้เกี่ยวข้องสามารถ log in ด้วยบัญชีมหาวิทยาลัยของตนเอง จากนั้นเลือกหน่วยงานที่ต้องการเข้าไปจัดการในฐานะผู้ดูแลเว็บของหน่วยงาน เมื่อเลือกหน่วยงานแล้วจะไม่สามารถสลับหน่วยงานอื่นได้ จะต้อง log out บัญชีออกและเข้าใหม่ เมื่อเข้าระบบแล้วหน้าจอจะเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ที่เราดูแล และจะปรากฏหัวข้อต่างๆที่เราสามารถเข้าไปจัดการเนื้อหาได้ โดยขอยกตัวอย่างหัวข้อที่งานบัณฑิตศึกษาได้ใช้งานจริงเป็นประจำดังต่อไปนี้

1.การเพิ่มหรือลบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของคณะ เช่น คำร้องนักศึกษา เกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ เป็นต้น ให้คลิกเลือกหัวข้อ คลังเอกสาร จากนั้นให้คลิกเพิ่มหมวดเอกสารใหม่ และอัพโหลดไฟล์เอกสารที่เราต้องการลงไป

2.การปรับปรุงเนื้อหาหรือรายละเอียดสำคัญที่ขึ้นบนเว็บไซต์ ให้คลิกเลือกที่หัวข้อ จัดการ Content จากนั้นสามารถคลิกเพิ่มหรือแก้ไข Content ได้ และสามารถปรับสถานะให้แสดงหรือไม่แสดงเนื้อหานั้นบนเว็บไซต์ได้

3.การเพิ่มหมวดเมนูด้านบนของบนเว็บไซต์ สามารถคลิกเลือก จัดการ Menu จากนั้นให้เพิ่มชื่อหมวดเมนูที่ต้องการ

4.การเพิ่ม Slideshow สำหรับประชาสัมพันธ์ข่าวที่น่าสนใจของคณะศิลปศาสตร์บนหน้าหลักของเว็บไซต์ ให้คลิกที่หัวข้อ Slideshow หน่วยงาน จากนั้นอัพโหลด Slideshow ตามขนาดที่กำหนด Slideshow จะปรากฏบนหน้าจอหลักของเว็บไซต์

5.การตอบคำถามของผู้ที่สอบถามหรือแจ้งคำถามเข้ามาผ่านเว็บไซต์ สามารถทำได้ได้โดยคลิกหัวข้อ ระบบถามตอบ จากนั้นตอบกลับคำถามดังกล่าว

6.การปรับชื่อหมวดต่างๆด้านล่างของเว็บไซต์ สามารถทำได้โดยคลิกหัวข้อ จัดการ Footer Menu จากนั้นให้เพิ่มหรือลบหมวดเมนูตามที่ต้องการ และชื่อหมวดควรตั้งให้สอดคล้องกับหมวดเมนูด้านบนของเว็บไซต์

7.การเพิ่มข่าวหรือประกาศที่เกี่ยวข้องเพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวที่เป็นปัจจุบันและเป็นประโยชน์ สามารถทำได้โดยคลิกหัวข้อ จัดการข่าว/ประกาศ จากนั้นเลือกเพิ่มข่าว/ประกาศใหม่เพื่ออัพโหลดไฟล์ข่าว/ประกาศ และใส่รายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เช่น หัวข้อกิจกรรม ประเภทข่าว และวันสุดท้ายของการประกาศข่าว เป็นต้น

          ทั้งนี้ เว็บไซต์ระดับบัณฑิตศึกษาของคณะศิลปศาสตร์มีประโยชน์ในด้านการประชาสัมพันธ์ข่าวสารและหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาที่เป็นปัจจุบันของคณะศิลปศาสตร์และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อีกทั้งยังเป็นช่องทางสำหรับติดต่อสื่อสารกับนักศึกษาหรือบุคคลภายนอกที่สนใจคณะศิลปศาสตร์ เช่น นักศึกษาสามารถดาวน์โหลดคำร้องที่เกี่ยวข้องกับระดับบัณฑิตศึกษาได้ด้วยตนเองเพื่อนำไปใช้งาน และบุคคลภายนอกสามารถเข้าดูหรือดาวน์โหลดรายละเอียดของหลักสูตรที่ตนเองสนใจได้ เป็นต้น โดยมีช่องทางหลักสำหรับเข้าเว็บไซต์จำนวน 2 ช่องทาง ดังต่อไปนี้

1.เข้า https://www.ubu.ac.th/web/lagraduate (เว็บไซต์ระดับบัณฑิตศึกษาโดยตรง)

2.เข้า http://www.la.ubu.ac.th/index.php/th/ (เว็บไซต์หลักคณะศิลปศาสตร์) จากนั้น คลิกหัวข้อ หลักสูตรระดับปริญญาโท และคลิกเลือก เว็บไซต์งานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา